Skip to playerSkip to main contentSkip to footer
  • today
https://www.youtube.com/@tintineasyman1419/videos
Transcript
00:00สวัสดีครับเป็นยังไงกันบ้างครับ
00:02กลับมารู้สึกตัว รู้ลมหายใจอยู่กับปัจจุบัน กันบ้าง quier heat
00:06แล้วสักวันหนึ่ง สิ่งดี ๆ เหล่านี้มันจะกลับมาหาตัวเราเอง
00:11วันนี้ผมขอเชืนชวนทุกท่านมาเปิดใจรับฟัง
00:145กรรมสำคัญจาก พระพุทธธาร์พิ��กุ
00:18คำซ่อนที่เปลี่ยนชีวิตผู้คลมากมาย
00:20และอาจเปลี่ยน มุมมองของคุณ ต่อ ความสุข และความทุกษ์ ได้จะรอดไปก็ได้
00:25หากคุณกำลังชื่อย หา ความสงบสุขในใจ แล้วหาทางออก แก้ความ รึ signature ของ ชีวิต
00:31อย่าเพิ่งโกรดข้ามไปนะครับ ลองรับฟังดูครับ เพราะสิ่ง ที่ทัน พระพุททธาติฟากไว้
00:37อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหา
00:39และก่อนที่เรามันจะเริ่มกันนะครับ
00:41เรามารู้จักท่านพระพุทธทท์กอนครับ
00:44ว่าท่านเป็นใคร
00:45มาจากไหน
00:46ท่านพระพุทธทาส์พฤกุ
00:47มีนามเดิมว่า
00:49เงิ่มผานิตเกิดเมื่อวันที่ 27-พฤษภาคม
00:52ภ.2449 ذ.ที่ตำบนผุ่มเรียง
00:56อำเขิชัยยา
00:58จังวัดสูราทธานี
00:59นัยั่วไว
01:00ท่านเป็นเด็กที่สนใจไฟเรียนรู้ มีจิตใจอ่อนโยน และมักช่วยเหลือ กิจการของข้อบกลัว จนได้รับความลักไข่จากผู้ใหญ่
01:10เมื่ออายุประมาณ 20 ปี หลังจากที่บิดามานดา ได้ถึงแกะกรรมแล้ว ท่านได้ตัดสินใจ บวดเพื่อทดแทงคุณพ่อแม่ตามประเภนี
01:20ท่านบวดเป็นภาพพิสุก เมื่อวันที่ 29 กระดักกระดาคม พ. 2469 ที่วัดเจดี อำเภอชัยยา จังวัดสูราธฐานี โดยได้รับชายาว่า อินทัพปัญโย ซึ่งแปลว่า ผู้มีปัญญาอันประเซิด ดุดพะอิน
01:38หลังจากบวดท่านศึกษาในสำนักวัดบรุมท่าชัยยา และไปศึกษาต่อที่กุงเทพ ที่วัดมหาธาษยุวราษลังสลิ ท่านได้มีโอกาสศึกษา พระธรรมวิในพระไตปิดกอย่างจริงจัง ซึ่งกอให้เกิดความตนัก ถึงแก่นแท้ของพพุทธสาตนา และเห็นความสำคัญของการปฏิบัติธรรม ยังเรีย
02:08ท่านศึกษาติกับมาที่ชายา และได้สร้างสนโมคขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2475 เป็นสถานที่เผยแพรธรรม ที่เน้นความเข้าใจ ทำตามความเป็นจริง ไม่ยึดกิดรูปแบบ ในการพึ่งตัวเอง และความเรียบง่ายตามธรรมชาติ ตลอดชีวิตของท่านพระพุทธธาติ ท่านมูมมั่นในการอธิบาย และเผยแพรคำสองของพระพุท
02:38การอยู่กับปัจจุบัน และความว่าง เพื่อความพ้นทุกข์ ท่านยังเน้นความเสมอภาคระหว่างศาสนา และความเข้าใจธรรมะ ยังเป็นจ่าง โดยประราศจากอักติ ท่านพระพุทธธาติภิกษุ หมอรณะภาพเมื่อวันที่ 8 กระดักกระดาคม พ.ศ. 2536 อายุ ได้ 87 ปี ท่านทิ้งไว้สื่นคำสร และพุทธงานจำนวน
03:08ภาพอศาพุทธธมา จบจนปฏฎ 왔. และนี่ก็คือ 5 เก่นธรรมสำคัญจากท่านพะพุทธธาติภิกษุ แล้วมาเริ่มกันเลยนะครับ!
03:181. หลักษูญ Hertz หรือจิตว่าง o forma
03:22ท่านพพุตรทาษ์เน้นย้ำเรื่อง ษูญี่ตา หรือความว่าง
03:33եง electricity สัตวง untuk tendency maksudsk eyebrows
03:43จริงหากเข้าใจความว่าง จะไม่ยืดติด ไม่ทุกของมีอิสละภาพทางจิตใจ
03:50ท่านพระพุทธชาติชีให้เห็นว่าคำว่า ว่าง หรือสุญ cherish た
03:54มι LLCไม่ใช่ความว่างเปล่า ที่ไม่มีอะไรอยู่เลย
03:58มิ confusion ว่างร้างจากสิ่งทั้งหลายทั้งป่วงจนไม่เหลือสิ่งใด
04:03แต่เป็นความว่างจากความยืดมั่นถื Bir มั่น
04:06ว่าจากความสำคัญผิด
04:13ท่านอัธิบายว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ร้วงเกิดขึ้นจากปัจจัย เมื่อเหตุปัจจัยปรุงแต่งสิ่งนั้นก็เกิดขึ้น เมื่อเหตุปัจจัยแปลเปลี่ยน สิ่งนั้นก็แปลเปลี่ยนไปหรือดับไป
04:28ไม่มีสิ่งได้ดำลงอยู่ด้วยตัวของมันเองโดยแท้จริง
04:32เมื่อพิจารณาโดยแยบคายแล้ว
04:35จะเห็นว่า ว่างในสิ่งทั้งปวง
04:38ว่างจากความเป็นตัวเป็นตน ว่างจากเป็นของเรา
04:42เพราะในความจริงแล้ว
04:44ไม่มีอะไรที่เป็นของเรา
04:46หรือเป็นตัวตนที่แท้จริง
04:48สิ่งทั้งหลายเพียงแต่เกิดขึ้น
04:50ตามเหตุตามปัจจัยเท่านั้น เมื่อจิตใจเข้าใจ และเห็นความว่างในสิ่งทั้งหลาย
04:56จิตนั้นก็จะว่างตามไปด้วย คือว่างจากความลงยึดถือ ว่างจากความรู้สึกเป็นตัวกูหงกู
05:03ว่างจากความยากความยืดติด จิตที่ว่างนี่เองเป็นจิตที่บริสุด จิตที่เป็นอิสระ จิตที่ไม่ถูกบิบบังคับด้วยตันหาและอุปธาน
05:14ความว่างนี้มิชัยเป็นความว่างที่เหือดแท้ง หรือว่างเปล่าอย่างซึมเศ้า แต่เป็นความว่างที่สุดชื่นเบาสบาย ปลอดปลง เพราะไม่มีพระละหนักจาการยืดถือ
05:26ท่านพาพุทธาษ์จึงเน้นย้ำว่าการปฏิบัติ workers เธอเข้าถึงความว่าง
05:31หรือศูญญิตานี้เป็นหนธางไ напримерไปสู่ความหลุดพล
05:34ความว่่างเป็นสภาพธรรมชาติที่ปกตอยู่ในทุกสิ่ง
05:39เพียงแต่ว่าเรามากมองไม่เห็น
05:41เพราะถูกความยึดมั่น ๆ ถือมั่นบทบัง
05:44การจะเหลือสติประฐาน การพิจารณาธรรม
05:47การเห็นความจริงของไตรักษ์ คืออานิตจังทุกขังอนัตตารวนเป็นวิธีที่จะทำให้
05:55ความว่านี้ชัดเจดขึ้น จรสามารถว่างความยứตมั่นถือมั่นลงได้
06:00ท่านพศพุตรธาชยังก้าวว่าการดำลงอยู่ กับความว่างในชีวิตประจําวันนั้น
06:06คือการอยู่โดยไม่ลงยứตถือในสิ่งใد ๆ ไหม��ofocast
06:09เมื่อใจไม่ยึดสิ่งที่มากระทบก็ไม่ก่อให้เกิดความทุกข์
06:13แม้จะต้องพบกับความเปลี่ยนแปลง ความพัดพลาด
06:17หรือความไม่สมหวัง ไม่ทุกข์เพราะยึด
06:20เมื่อไม่ทุกข์ ใจก็เป็นอิสระ เป็นสุข
06:23และเบิกบ่านในธรรมชาติของความว่างนั่นเอง
06:26อย่างที่ท่านได้ก่าวไว้ว่า
06:29ความว่างคือความบริสุด ความว่างคือความอิสระ ความว่างคือความสงบเจน
06:362.การละอัตตา ตัวกูของกู
06:42ท่านพระพุทธาลภิกษุ อธิบายว่า ตัวกูของกูคือลากเหง่าของความทุก端่างปวงในชีวิต
06:50ความรู้สึกว่ามีตัวตนที่แพ้จริง หรือความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่าง ๆ
06:57ว่าเป็นของตน เช่นทรัพย์สี่น hob nominee
06:59หลักษณ์สธานมาตั้งสังคม
07:01หลือแม้แต่ความคิด และความรู้สึกของตนเองร้วนเป็นอุปธานที่เกิดขึ้นในจิตใจ
07:08โดยอาศัยความเคยชินที่สั่งสมมาตั้งแต่เด็ก
07:12เมื่อมีสิ่งใดมากะทบใจ ก็จะเกิดความคิดว่าตัวเราต้องการสิ่งนั้ pushed to massage
07:16หรือไม่ต้องการสิ่งใดมาทำล้ายตัวเราและของของเรา
07:25ความคิด scalable กิดขึ้นยังรวดเร็ว และบ่อยครั้ง จนกลายเป็นนิสายโดยไม่รู้ตัว
07:31ในทางุกريธุธาษณา ท่านช frontier ว่า อัตา หรือตัวตล
07:37ที่เราคิดว่ามีอยู่นั้น แท้ที่จริงแล้ว ไม่มีอยู่จริงเลย
07:41สิ่งทั้งหลายทั้งปวง รวնเป็นเพียงท่าทชม develop
07:45ที่เกิดขึ้นจากปัจจัย กรุงแต่งกันขึ้นมา
07:48ไม่มีอะไรที่เป็นของใคร หรือเป็นตัวใครอย่างแท้จริง
07:53ร่างกายและจิตใจของมนุษย์ก็เป็นเพียงการรวมตัวกัน
07:57ของส่วนประกอบต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา
08:01เมื่อใดที่จิตใจยังไม่รู้ตามความเป็นจริง
08:05ก็จะปุงแต่งความคิดว่ามีตัวมีตนขึ้นมา
08:08และเมื่อมีตัวมีตน ก็จะเกิดความอยาก
08:12มีความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆ ว่าเป็นของตน
08:16ความรู้สึกว่าเป็นตัวตน และของตน
08:19จึงเป็นภาละอันหนักของหยิดใจ ทำให้เกิดความทุกข์
08:24ด่านประพุทธธาสอนว่า การละอัดตา หรือปล่อยวางจวกกูของกู
08:29คือการฝึกษติให้รู้เท่าทัน ทุกครั้งที่ความคิดแบบนี้เกิดขึ้น
08:34เมื่อมีอารมณ์ รุ่ม like 的 quantitative หู ตา จะมูก ลิ้ล ไหลให้สังเกตว่า จิต 해요
08:41ผู้ng butain เป็น ตัวกู ของกู ขึ้นมาหรืมไหม
08:45ถ้าเกิดขึ้นให้รู้เท่าทันและไม่ตามใจมัน
08:48ไม่ปล่อยให้ กิรตเกิดขึ้นทุกครั้ง
09:02ท่านเน้นว่า การละอัตตา ไม่ใช่เรื่องไกลตัว หรือทำได้เฉพาะนักบวท แต่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้ในชีวิตประจำวันของพวกเรา เมื่อใดที่จิตว่างจากตัวกูของกู เมื่อนนั้นจะเข้าถึงความสงบเจ็น และความสุขที่แท้จริง เพราะไม่มีสิ่งใดมาทำให้จิตใจหนัก หรือเป็นทุกของกูอีกต่อไป
09:26ที่ท่านกาวไว้ว่า ตัวกูของกูนี่ละ เป็นหลากเงาคงความทุกทั้งปวง ถ้าม
09:53พิธีกามทางศาสนา การสวดมน หรือการทำบุญตามประเภนี แต่เป็นการฝึกฝน อบปลมตนเองอย่างแท้จริง โดยยึดหลักสิน สมาธิ ปัญญา หรือใต่สิขา เป็นแนวทางสำคัญในการดำเนินชีวิตและฝึกจิตฝึกใจ
10:11สินคือ การควบคุมตนเอง ถ้างกาย ว่าจา และใจ เพื่อไม่ให้เกิดความเดิดร้อน ต่อจนเองและผู้อื่นเป็นการรักษาความประพนิธให้ถูกต้อง ไม่รวงละเมื่อซิลธรรม ไม่เบียดเป็นผู้ใด
10:26สินเป็นพื้นฐานที่ทำให้จิตใจสงบ ไม่ฟุงส่าน เป็นจุดเริ่มต้นของการฝึกสมาธิ
10:32สมาธิคือการฝึกจิตใจให้มั่นคง แนวแน่ สงบ ไม่ว็กแว็กไปตามอารมณ์ หรือสิ่งเหล้าต่างๆ ภายนอก
10:41ท่านพระพุทธธาติเก่าว่าสมาธิที่แท้จริงนั้นเป็นจิตที่สงบ
10:46พร้อมที่จะทำงาน มีความบริสุดและเป็นกาง
10:49สมาธิเป็นเครื่องมือ ให้จิตใจมีพลัง
10:53สามารถเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
10:55ไม่ถูกครบงำ ด้วยอารมณ์ หรือความคิดที่ฟุงส่าน
10:59ปัญญา คือการฝึกฟนอบลมตนเอง
11:03ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในความจริง ของชีวิตและโลกตามที่มันเป็นจริง
11:08ไม่ใช่ตามที่ใจปรุงแต่ง หรือโลกสมมุติขึ้นมา
11:12ปัญญาในทางของพระพุทธศาสนา เป็นปัญญาที่ถอนตน
11:16ออกจากความยึดมั่นถือมั่น ในสิ่งทั้งปวง
11:19เห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์
11:21และความไม่มีตัวตนของสัพธิ accent
11:24เมื่อมีปัญญา แล้วเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย
11:28ในสิ่งที่เคยยดถือ
11:30เกิดความสรทสังเวท และหลาว่างได้ยังแท้จริง
11:33ท่านพัพทธต์อธิบายว่า
11:35สิน สมาธิ ปัญญา
11:37เป็นขบนการที่ส่งเซอม เคลือกูลกัน
11:41สินทําให้จิตสงบ สมาธิทําให้จิตมั่นคง ปัญญาทําให้เห็นความจริง เมื่อปฏิบัติคบท่วนจะสามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งป่วงได้อย่างแท้จริง
11:53ท่านย้ำว่าความบริสุดและความหลุดพ้นที่แท้จริงเกิดขึ้นด้วยปัญญา เพราะปัญญาจะทําลายความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งป่วง
12:03เป็นการตัดศเชือกที่ผูกมัดจิตใจไว้กับความทุกรุก
12:08เมื่อจิตใจหลุดพ้นจากความยืดมั่นถือมั่น But it depends on that shwn
12:12จะเกิดความสงบ สะอาศ สว่าง สไว้
12:14และใจเย็นเป็นสุข อย่างที่ท่านได้เกาไว้ว่า
12:18สิน สมาธิปัญญา
12:20คือทางสายตรง
12:22สินเป็นลากสมาธิปิศลำต้น
12:24ปัญญาเป็นผล
12:26เมื่อปฏิบัติคบท่วนจิตก็พ้นทุก อزิทธ์
12:324. ยู่กับปัชจุบัน ป่อยวางไม่ college ติด
12:36ท่านพระพุทธธะพิษุ ซอร์ว่า
12:39การย erasedกับปัชจุบัน คือการไม่ให้อดีตและอนาคตมาลบกวนจิตใจ
12:45ไม่อะไรอาวอน ถึงสิ่งที่ร่วงไปแล้ว
12:48ไม่พระวง ถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
12:51แต่ให้กำหนดอยู่ที่ปัจจุบันให้ดีที่สุด
12:54ท่านกล่าวว่าถ้าเราเอาอดีตมาคิดถึงอยู่ตลอดเวลา
12:59ก็จะมีเรื่องในอดีตมาลบกวนจิตใจ
13:02หาความสงบสุขไม่ได้
13:04เช่นเดียวกับการคาดหวังในอนาคตอย่างมาก
13:08ก็จะทำให้จิตใจถูกทรมาน
13:11ด้วยความหวังและความผิดหวังที่ยังไม่ได้ตามที่หวัง
13:15ท่านจึงเน้นว่าชีวิตที่อยู่กับปัจจุบันไม่มีอดีตไม่มีอานาคตมาลบกวลใจ จะทำให้เกิดความสุขเนื้อเวลา
13:25ท่านยังอธิบายอีกว่าการอยู่กับปัจจุบันที่ดีที่สุดคือให้จิตอยู่ในสมาทิ
13:32มีสติรู้เท่าทันถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เฉพาะหน้าไม่ฝุงสารไม่ไปกับอดีตอนาคตจิตที่ยุดอยู่ในสมาธิ เรียกว่าอยู่ก็ปัจจุบันซึ่งไม่มีอดีตไม่มีอนาคตเมื่อจิตอยู่ก็ปัจจุบันยังแท้จริง
13:49จะไม่เกิดความรู้สึกเป็นตัวตน
13:51ไม่เกิดความยึดมั่นพือมั่นในสิ่งใดЬ ๆ
13:55เป็นการตัดขาดจากอุปธาและกิ советทั้งปวง
13:58ท่านพระพุทธาติกาวว่า
14:00อดีθเป็นเพียงบรรทึกความส่งจำ
14:03จะเอามาใช้เมื่อไหลก็ได้
14:05อันาคตเป็นเพียง แฟนกลางของสิ่งที่เราล่างไว้
14:09ไม่ควรหวังจนเกิดกิ espacio ตันหา
14:11เพราะความหวังที่มากเกินไปจะก่ายเป็นความทุกร ท่านจึงแนะนำให้ทุกคนลองใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน
14:19ไม่มีอดีทไม่มีอนากฏมาลบกวนใจ แม้เพียงวันหนึ่ง คืนหนึ่งเพื่อให้เกิดชีวิตใหม่ที่สุดใส่และสงบเจ็น
14:30ท่านเน้นย้ำว่าเมื่อได้ยึดถือเมื่อนนั้นเป็นทุกข์เมื่อได้ไม่ยึดถือเมื่อนนั้นมันไม่เป็นทุกข์
14:37การอยู่กับปัจจุบันจึงเป็นการปล่อยวางไม่ยึดติดในสิ่งใดๆ
14:42ทั้งอดีตและอนาคตทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดในปัจจุบันก็เพียงพอแล้ว
14:48ชีวิตที่อยู่กับปัจจุบันอย่างแท้จริง จะนำไปสู่ความสงบสุขและอิสลภาพทางจิตใจอย่างแท้จริง
14:56อย่างที่ท่านกาวไว้ว่า อดีตก็เป็นเพียงความทรงจำ อนาคตก็เป็นเพียงความคิด
15:02ปัจจุบันเท่านั้นที่เป็นความจริง อยู่กับปัจจุบันเธอจะไม่ทุก
15:105. การเป็นมนุษย์ที่ดีในสังคม หลักการห้าดี
15:15ท่านพระพุทธธัพพิกขุเสนอหลักการห้าดี เพื่อเป็นแนวทาง
15:20ในการพัฒนาตนเองและสังคมให้สมบน โดยเน้นว่าทุกคนควรปฏิบัติตนให้ดีในแต่ละบทบาทของชีวิต
15:29เริ่มจากการเป็นบุธที่ดีของพ่อแม่ ต้องมีความกระตันยูกตะเวที
15:34เชื่อฟัง ดูแล ไม่ให้พ่อแม่ต้องทุกใจ ไม่ทำมีซิ่งที่เสือมเสียชื่อเสียงวงตกูล
15:41และตอบแทนพระคุณท่านโดยความพระพฤธที่ดีและความห่วงใย
15:46ส่วนการเป็นสิทธิวีрод OF กรูบ่าอาจารย์
15:48ต้องเขารบ เชื่อฟังและฟังคำสั่งสอน
15:52นำความรู้และคุณธรรมที่ได้รับไปประยุคใช้ในชีวิตประจำวันไม่ลบรูหรือทำให้คูบอาจารย์เสียใจ
16:01ในบทบาทของการเป็นเพื่อนที่ดี ท่านประพุทธธาติเน้นให้มีน้ำใจช่วยเหลือเกือกลูน
16:07ไม่เอาเปรียบไม่ชักน้ำกันไปในทางที่ผิดและรักษาความสัมพันธ์ด้วยความจริงใจและเมตตา
16:14การเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติต้องมีความรับผิดช้อบต่อสังคม คลบกฎหมายและระเบียบของบ้านเมือง
16:23ไม่ทำคTerigummeatiu ที่เป็นภัยต่อสังคมมีจิด ق setztมนึกในการเสียสละเพื่อสวนรวมและลวมมือรวมใจ
16:31ในการพัฒนาประเทศชาติ สุดท้ายการเป็นสาวกที่ดี ของพระพุทธเจ้าคือการตั้งใจศึกษา และปฏิบัติตามคำสร ของพระพุทธองค์อย่างจริงจัง มีสัทธาในพระรัตนะไตย ดำลงตนอยู่ในสิ้นละธรรม และนำหลักธรรม ไปใช้ในการดำเนินชีวิต จนเกิดประโยชน์ต่อตนเอง และผู้อื่น
16:54ท่านพระพุทธธาติเน้นว่าหลักหรีนี้เป็นแนวทาง ที่ทำให้แต่ละคน พัฒนาตนเองให้สมบูรณ์ และเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม หากทุกคนในสังคม ปฏิบัติตามหลักนี้ได้ สังคมก็จะสงบสุกและจะเรินรุ่งเรืองงอกงาม
17:11ดังคำกาวที่ท่านกาวไว้ว่าเป็นบุดที่ดีของพ่อแม่
17:41จากอยู่ในโลก โดยไม่ทุก รู้จักความว่าง โดยไม่หลง รู้จักตนโดยไม่ยึดตน รู้จักปัติบัติธรรม
17:49อย่างแท้จริง รู้จักอยู่กับปัจจุบัน และรู้จักบทบาทของตนเองในสังคม
17:55ทั้งหมดนี้เป็นหุนทางที่ทำให้ชีวิตเบาสบาย และเป็นอิสระจากความหลงสำคัญผิดทั้งป่วง
18:03ธรรรมะยึงไม่ใช่สิ่งที่สับซ้อน หากเราเข้าใจ และนำไปใช้ให้ตรงจุด
18:08ผมก็วังว่า ธรรรมะธ่ามาท่านพอพุตรท่านพิก congratulations ในคลิปนี้
18:12จะเป็นแสงสว่างให้ใจของทุกคน
18:13ได้เห็นหุนทางของตนเองอย่างทลาอยเจน
18:26เขาให้ต้อยעםคุณprofitで Grams ν est
18:31decimal thing look for ourselves สุดท้ายนี่ พ่อให้ท่านทั้งหลาย
18:37ช่องมีแต่ความสุกความเกลิน และมีชีวิตที่ี่ดีที่ elements
18:41ในโลกนี้ในจักกวานนี้ และจงรับรุว่าไว้ถือด ว่า
18:45ธรรมไม่ใช่ของสูงที่อยู่ไกย แต่คือการละตัวตน โป llegó 협 내일
18:50และมีใจที่ว่างเบา เมื่อได้ไม่ยึดถือ เมื่อนั้น
18:54เราเขาเป็นอิสระ นี่คือคำกาวของท่านพระพุทธธาษ์
18:58เรียนรู้ที่จะอยู่ เรียนรู้ที่จะตาย สวัสดี

Recommended