Skip to playerSkip to main contentSkip to footer
  • yesterday
เครื่องบินรบส่วนใหญ่บินได้ไวกว่าเสียง แต่ทำไม่เราถึงไม่เห็นว่ามีสายการบินไหนที่ให้บริการเครื่องบินโดยสารที่บินได้เหนือเสียงเลยล่ะ ? สาเหตุจริง ๆ เป็นเพราะอะไร ร่วมหาคำตอบได้ในเดอะวิทย์ด้อม ด้อมของคนชอบวิทย์ #BT #BTBeartai #Concorde #เดอะวิทย์ด้อม #เฌอปราง

Category

📚
Learning
Transcript
00:00เครื่องบินโดยศาที่เรานั่นกันอยู่ทุกวันนี้
00:02ทุกออกแบบมาให้ทำความเร็วสูงสุดที่ประมาณ 1 ทันกิโลเมตรต่อชั่วโมง
00:07ซึ่งนับเป็น 80% ของความเร็วเสียง
00:10ถ้าเกิดว่าเราทำการบินจากกรุงเทศไปที่กรุงโตเกียว
00:13ประเทศญี่ปุ่นแบบบินตรงเนี่ย
00:15ก็จะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง
00:17แต่จะดีกว่าไหมคะ
00:19ถ้าเราสามารถเดินทางไปญี่ปุ่น
00:21ได้ในเวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมง
00:23เรียกได้ว่ากินข้าว 1 มื้อดูหนังเรื่องเดียวก็เดินทางถึงแล้ว
00:27แล้วในเมื่อในอดีตเราเคยมีเครื่องบินที่สามารถทำสิ่งที่ว่านี้ได้
00:32ทำไมเราถึงยังต้องใช้เวลา 6 ชั่วโมงอยู่
00:35ใช่ค่ะ
00:36เจอกำลังพูดถึงเครื่องบินคองคอร์ด
00:38ตำนานเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง
00:41ว่าทำไมคองคอร์ดถึงไม่ได้ไปต่อ
00:43และในอนาคตเราจะมีเครื่องบินอย่างคองคอร์ดเกิดขึ้นอีกไหม
00:48คลิปนี้เรามาใครคำตอบกันค่ะ
01:08คองคอร์ดนั้นนะคะถือเป็นเครื่องบินในฝันที่หลายคนอยากจะมีโอกาสนั่งสักครั้ง
01:14การได้ดื่มแชมเปร์พร้อมกับรับประทานอาหารจากเชียพระดับ 5 ดาว
01:18ในขณะที่เดินทางข้ามหาสมุตร Atlantic ในเวลาแค่ 3 ชั่วโมง
01:21ถือเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้อีกแล้ว
01:24นั่นก็เพราะว่าอย่างที่เรารู้กันนะคะว่า
01:27เครื่องบินคองคอร์ดได้หยุดการให้บริการไปในปี 2003
01:30หลังจากที่ขึ้นบินครั้งแรกในปี 1969 รวมระยะเวลากว่า 34 ปีค่ะ
01:36คองคอร์ดนั้นนะคะให้บริการหลักๆ โดยสายการบิน Air France และ Bittrisse Airways
01:41บนเส้นทางทำเงินระหว่างยุโลปและสหรัฐอเมริกา
01:45ข้ามมหาสมุติ Atlantic เป็นการร่วมพัฒนาการระหว่างอังกิจกับฝรั่งเศษ
01:50แต่ละเที่ยววินจุพวกริษาลได้ประมาณ 90 ถึง 120 คน
01:54หน้าตาของคองคอร์ดนั้นถือได้ว่าเป็นเอกลักษ์และแตกต่างกับเครื่องวินโดยสันทั่วไปมาก
01:59จะมีความเรียวยาว ลำตัวแคบ
02:02มีปีกเป็นทรงสามเรียบงุ้มลงล่างที่เรียกว่า Ogavolt Delta
02:06มีจมูกที่แหลม ตัวเครื่องยกสูงจากพื้นมาก
02:09มีหน้าต่างที่เล็ก พื้นที่ปีกว้าง
02:12ซึ่งการออกแบบนี้นะคะ ล้วนเต็มไปด้วยวิทยาศาสตร์
02:15และวิศาวกรรมที่น่าถึงที่ช่วยให้คองคอร์ด
02:18สามารถบินที่ความเร็วสูงสุดถึง 2,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
02:23หรือเป็น 2 เท่าของความเร็วเสียงเลยทีเดียวค่ะ
02:27แต่ก่อนที่จะดูวิทยาศาสตร์ และวิศาวกรรม ลังของคอร์ดนะคะ
02:30เรามา Р่ะเรียงประวัติศาสตร์ของการบิน
02:32ที่นำมาสู่การสร้างเครื่องคอร์ดกันก่อนดีกว่าค่ะ
02:36ในปี 1903 นะคะ พี่น้องตกุล RYTE
02:39ได้สร้างเครื่องบินลำแรก
02:41และทำการบินที่ความเร็ว 24 กิโรเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น
02:45แต่นั่นก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการบิน
02:47จนกระทั่งในปี 1933 บริษัท Boeing
02:50ก็ได้เปิดตัวเครื่องบิน Bypass Boeing 247
02:54ที่นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเครื่องบินโดยศาลยุคปัจจุบันนะคะ
02:58ที่สามารถรองรับผู้โดยศาลได้ถึง 10 ที่นั่งเพียงเท่านั้นค่ะ
03:02แล้วก็ทำความเร็วได้สูงสุดเพียงแค่ 370 กิโรเมตรต่อชั่วโมง
03:06โดยมีพิศัยการบินอยู่ที่ 1,200 กิโรเมตร
03:10ต่อมาเครื่องบินโดยศาลยศาลย์ก็สามารถบินได้ใกล้ขึ้นในปี 1938
03:14ซ้ายการบิน Lufansa ก็สามารถนำเครื่องบิน Bypass แบบ FW200
03:19มาให้บริการในเส้นทางระหว่างกรุงเบอรินกับ New York
03:23นับเป็นเส้นทางการบินข้ามมหาสมุก Pacific ครั้งแรก
03:26โดยไม่แวะพัก รวมระยะทางกว่า 6,400 กิโลเมตร
03:30ที่ทำโดยเครื่องบินโดยศาลยศาลยุคใหม่ค่ะ
03:33ในปี 1949 โลกก็ได้รู้จักกับเครื่องบินโดยศาลไอศาลลำแรก
03:38ก็คือ The Harvey Land Comets
03:40ซึ่งทำความเร็วได้ถึง 847 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
03:44ถือว่าเป็น 9 กระโดดอย่างมาก
03:46และลดเวลาเดินทางข้าม Atlantic ให้มาอยู่ที่ 6 ชั่วโมง
03:49เท่ากับที่เราบินกันทุกวันนี้ค่ะ
03:52เครื่องยนต์ iPhone ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโดยศาลยศาลที่เปลี่ยนโลกเลยก็ว่าได้
03:56หลักการทำงานของมันนะคะ
03:58ก็คือการใช้พัดลมขนาดใหญ่ดูดอากาศเข้าไป
04:01อัดอากาศให้มีความดันสูงขึ้น
04:03แล้วใช้เชื้อเพิงในการเผาอากาศให้มีความดันสูงมากๆ
04:06ทำให้เกิดการขยายตัวอย่างลวดเร็ว
04:09พูดง่ายๆก็คือ
04:10เหมือนทำให้อากาศระเบิดออก
04:12มาในช่องทางด้านหลังของเครื่องยนต์
04:15ทำแบบนี้ซ้ำไปเรื่อยๆ นะคะ
04:17ก็จะสร้างแรงขับพาให้เครื่องบินเครื่อนที่ไปข้างหน้า
04:20หลักการนี้ใช้ความรู้เรื่องแรงกิริยาและแรงปติกริยา
04:24ซึ่งเป็นกฎของ Newton ข้อที่ 3 นั่นเอง
04:27เสียงเดินทางด้วยความเร็วในอากาศ 343 เมตรต่อวินาที
04:31หรือประมาณ 1,235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
04:35วัตถุใดๆก็ตามที่เครื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำกว่านี้
04:38เราจะเรียกว่า Subsonic
04:40และหากเครื่อนที่เร็วกว่านี้ก็จะเรียกว่า Super Sonic
04:44ซึ่งคำว่า Sonic นั้นก็คือคำเดียวกับคำว่า Sound
04:47หรือว่าเสียงนั่นเองค่ะ
04:49หน่วยที่เราใช้ในการวัดความเร็วโดยอาศัยความเร็วของเสียง
04:53เราจะเรียกว่า Mach
04:54ยกตัวอย่างเช่นถ้า Mach 1 ก็คือบินที่ความเร็วเสียง
04:58MAC II ก็คือการบินเร็วกว่าความเร็วเสียง 2 เท่า
05:01เครื่องบินรำแรกนะคะที่บินด้วยความเร็วแบบ Super Sonic
05:05ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเครื่องบินทางการถหาร
05:08หรือเครื่องบินเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น
05:11จนกระห้างในปี 1962 รัฐบาลภรั่งเศรษและอังกฤษ
05:15ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อพัฒนาเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงร่วมกัน
05:20โครงการนี้นะคะ ยังเป็นโอเคสำคัญในการแสดงศักรยภาพย์ด้านเทคโนโลยีของยุโรพ
05:25เพื่อต่อซู่กับความเป็นผู้นำของสหรัศในอุสาหกรรมการบินเช่นโบอิ้ง
05:30โดยทั้งสองประเทศนะคะก็ได้แบ่งงานให้กับบริศัทอายรอสปาสิยานของฝรั่งเศษรับผิดชอบการพัฒนาชิ้นส่วน
05:37ด้านลำตัวและระบบอิเล็กโทนิก
05:39และ British Aircraft Corporation ของอังกฤษรับผิดชอบการพัฒนาโครงสร้างหลักของปีก
05:44ระบบลงจอดและการทดสอบ
05:47รวมถึงเลือกใช้เครื่องยนไอร์พ้นจากบริศัท Rose Lloyd จากอังกฤษ
05:51และสเน็กมาจากฝรั่งเศษ
05:53การพัฒนาเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะคะ
05:57เพราะว่าวิศวากรต้องเจอกับอุปสักษ์มากมาย
06:00อย่างแรกเลยก็คือ
06:02ค้องคอถูกออกแบบให้บินด้วยความเร็วมากกว่า 2000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
06:07อากาศที่เสียสีกับลำตัวของเครื่องบิน
06:09อาจก่อให้เกิดอุณภูมิที่สูงกว่า 120 องศา
06:13ยังไม่รวมกับความร้อนที่เกิดจากแดดที่ตัวเครื่องบินต้องเจอตลอดเวลา
06:18ปกติโรงหาที่เรานำมาใช้ผลิต
06:20เครื่องบินก็ได้แกะอาลูมิเนียมอันรอย
06:23แต่อาลูมิเนียมจะเริ่มศูนย์เสียความแข็งแรงที่อุณภูมิประมาณ 120-150 องศาเซลเซียต
06:29เครื่องบินปกติไม่จำเป็นต้องแก้ปัญหานี้
06:32แต่พอเป็นคองขอด
06:34วิศวากรณ์มี 2 ตัวเลือก
06:36คือ
06:36ทำอาลูมิเนียมอันรอยให้ดียิ่งขึ้น
06:39หรือ
06:392 หันไปใช้ワสดุอย่างที่ทนต่อความร้อนได้มากกว่า
06:44อย่างเช่นเครื่องบินร์เปิร์ร์ด ของกล่ongทับสหรัฐ
06:48อันนี้ใช้ไทีเนียมค่ะ
06:49แต่การใช้ไทีเนียมก็ไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดีนัก
06:52เพราะว่ามีน้ำหนักมากกว่าอัลูมิเนียม
06:55fearful การจริงตัดสินใจคือบอัลูมิเนียมอันรอย
06:58สำคัญกับความร้อนและการเสียสี
07:00มากกว่าเครื่องบินแบบปกติ
07:02ที่จะเน้นการเคลือเพื่อป้องการกัดก่อน
07:04และยืดอายุการใช้งานค่ะ
07:06ความร้อนที่สูงขึ้นขนาดนี้นะคะ
07:08ทำให้ตัวโครงสร้างหลักของเครื่องบิน
07:10ขยายตัวถึง 20 เซนติเมตร
07:12ในแต่ละเที่ยวบิน
07:14การออกแบบภายในจึงจำเป็นต้องรอมรับ
07:16การยืดและหดดังกล่าวด้วย
07:18ส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของความปอดภัย
07:21อีกส่วนหนึ่งก็คือถ้าเราเป็นผู้โดยสาร
07:23เราก็คงงงงนะคะว่าทำไมอยู่ดีๆ
07:26นั่งๆ อยู่แล้ว
07:27เพิ่มไปไกลจากเรา
07:28ความทันให้ต่อมาก็คือการออกแบบเครื่องยนต์ของมันค่ะ
07:32ซึ่งของขอดนะคะใช้เครื่องยนต์รุ่น Olympus 593
07:35จำนวน 4เครื่องยนต์
07:37ซึ่งหน้าตาของมันก็จะแตกต่างจากเครื่องยนต์เจ็ดที่ใช้กับเครื่องยนต์โดยสารรุ่นอื่นๆ
07:42และหน้าตาออกมาคล้ายกับเครื่องยนต์ของเครื่องบินรบมากกว่า
07:46คุณสมบัติของมันที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ
07:49มันเป็นเครื่องยนต์ของเครื่องบินโดยสารรุ่นแรกที่มีการใช้ Afterburner
07:55ซึ่งก็คือการเผาอากาศที่ได้จากตัวเครื่องยนต่ออีกที
07:58เพื่อทำให้อากาศที่ร้อนมาก ๆ อยู่แล้ว
08:00ร้อนแล้วมีพลังงานขึ้นไปอีก
08:03ปกติเราจะได้เห็นการทำ Afterburner กับเครื่องบินลบ
08:06วิธีสังเกตก็คือจังหวะที่ส่วนท้ายของเครื่องมันเปิดอ้าออกค่ะ
08:11การคบคุมการเข้าออกของอากาศในเครื่องยนต์รุ่นโอลิมปัส 593
08:15ถือว่าเป็นวิศชาวกรรมที่ลำยุกมาก
08:18สำหรับเครื่องบินโดยสาร
08:19เพราะว่า康่งขอป์นั้น
08:20ต้องเจอกับสigma วาศาพแว président ที่หลาก ๆ แบบมากค่ะ
08:24ไม่ว่าจะเป็น
08:25การบินขึ้นที่ความดันอากาศที่เพいน
08:27การบินที่ความสูงที่บรรยากาศเบาบาง
08:30หรือความเร็วที่แป้ผันตั้งแต่การบินขึ้นไป
08:33จนถึงการบินที่ความเร็วต่ำกว่าเสียง
08:36และความเร็วเนื้อเสียงค่ะ
08:38ซึ่งทั้งหมดนี้อาศัยหน้าตาของทางเดินอากาศที่ต่างกัน
08:43แบบที่เราเรียนจะในฟิสิกมัทยมเรื่องกลลาศาสตร์ของไหลนั่นเองค่ะ
08:47ยกตุอย่าง เช่นratic acab cui t insane
08:50เราจะไม่สามารถปล่อยให้อากาธไหลเข้าสู่เครื่องยนต์
08:53ด้วยความเร็วเหนือเสียงได้
08:55เนื่องจาก ช๊อก
08:56หรือว่าขึ้นกระแหกที่เกิดขึ้น ý developed
08:59จะทำให้อาตาการไหลของโอากาธไม่สมั spiral
09:01ลดประสิทธิภาพการอัดอากาธของเครื่องยนต์
09:04เครื่องยนต์จะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อ
09:06หรืออากาศไหลอย่างสม่ำเสมอ
09:08หรือที่เรียกว่า LAMINA FRO
09:10ซึ่งเครื่องยนต์ 593 นี้นะคะ
09:12ก็จะใช้วิธีลดหน้าตัดกับอากาศที่ไหลเข้าสู่เครื่องยนต์
09:16ในขณะที่ตอนเครื่องต้องการอากาศจำนวนมาก
09:18เพื่ออัดเข้าสู่เครื่องยนตอนกำลังจะบินขึ้นเนี่ย
09:21มันก็จะเปิดหน้าตัดกับอากาศกว้างอย่างเต็มที่ค่ะ
09:25และนี่ก็เป็นตัวอย่างของเทคโนโลยีที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเครื่องบินโดยสารทั่วไปมาก่อนค่ะ
09:31อีกวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจของเครื่องบิน Concord ก็คือ
09:34ส่วนสัมผัสกับอากาศ
09:35หรือในทางวิเศษปกรรมก็จะเรียกว่า Aerodynamic Surface
09:38ซึ่งทำนาทีช่วยให้เครื่องบิน บินอยู่ในอากาศได้
09:42เอกระรักของ Concord ที่แวปแรกมองเห็นเลยก็คือ
09:44ทรงปิกแบบ Ogavo Delta
09:47เชอชวนสังเกตว่าเครื่องบินที่ออกแบบให้บินเร็วๆ
09:50ถ้าเราดูจากด้านหน้า หน้าสัมผัสกับอากาศ มันจะไม่ได้เยอะมาก
09:54เพราะยิ่งเยอะ มันก็จะยิ่งสร้างแรงเสียฐาน
09:57ดังนั้นยิ่งเราออกแบบปิกให้สั้นแค่ไหน
10:00แรงเสียฐานกับอากาศก็จะน้อยลงค่ะ
10:03แต่ถ้าเราพิกเครื่องบินแล้วมองจากมุมด้านบน
10:06ยิ่งพื้นที่ปิกเยอะเท่าไร อากาศก็จะไหลผ่านปิกมากเท่านั้น
10:11มันก็จะยิ่งสร้างแรงยกได้มากขึ้น
10:13ทำให้เครื่องบินยังคงบินอยู่ได้
10:15ที่ความเร็วต่ำและไม่เกิดอากาศที่เรียกว่า
10:18STALL
10:19นี่เป็นเหตุผลเดียวกันกับเวลาที่เครื่องบินร่อนลงค่ะ
10:22เขาจะเชิญน่าขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เกิดแรงยก
10:25เราเรียกว่ามุมประทะกับอากาศ
10:27หรือ Angle of Attack
10:29ช่วยให้อากาศดันตัวเครื่องบินอยู่
10:31ไม่ให้ตกลงมาเร็วจนเกินไป
10:33ในขณะที่ทำความเร็วต่ำ
10:35เพื่อเตรียมหยุดเมื่อลอสัมพัศกับพื้นค่ะ
10:38การออกแบบเครื่องบินที่บินเร็วเร็วเนี่ย
10:40ก็เลยเป็นการต่อสู้ระหว่าง
10:42การลดหน้าประทะ
10:43กับอากาศที่ช่วยให้เครื่องบิน
10:46บินได้เร็วกับการเพิ่มพื้นที่ให้อากาศไหลผ่าน
10:49ที่ช่วยให้เกิดแรงยกมากพอ
10:51Concord ก็เลยใช้การออกแบบปีก
10:53ทรง Delta ที่ทำให้ความกว้างของปีกไม่เยอะมาก
10:56แต่มีพื้นที่ให้อากาศไหลผ่านมาก
10:59ในขณะเดียวกันก็ใช้เส้นคงแบบ Ogavo
11:01ค่อยๆ ทำให้พื้นที่ประทะกับอากาศมันสมูทขึ้น
11:05แทนที่จะทำให้ปีกเป็นแบบ 3 เหลี่ยมตรงๆ
11:08แข็มตรงไปก็ยังงุมลงมาเล็กน้อย
11:10เพื่อให้เกิดแรงยกมากขึ้นเมื่อเครื่องมีองศาประทะกับอากาศ
11:14Angle of Attack มาก
11:16จำลองเหมือนความค่อยมี 2 ปีก
11:19เป็นปีกที่ใช้สำหรับความเร็วสูง
11:21และปีกที่ใช้สำหรับความเร็วตำ
11:23ส่วนตัวแพนห้างหรือในภาษาการบินที่เรียกว่า
11:27Vertical Stabilizer
11:29นั้นก็จะไม่ได้สูงมาก
11:30แต่เน้นพื้นที่ให้อากาศไหลผ่านมากแทน
11:34อีกหนึ่งปัญหาที่คงขอเจอจากการออกแบบๆนี้
11:37ก็คือตอนที่มันร่อนลง
11:39มันจำเป็นต้องเชิดหน้าเพื่อให้อากาศประทะกับบริเวณใต้ปีเยอะๆ
11:43เหมือนที่เชิญบอกไปว่าช่วยให้มันยังคงลอยอยู่ได้
11:46แม้ความเร็วตำ
11:48แต่การทำแบบนี้ก็จะทำให้นักบินมองไม่เห็น Runway
11:51เพราะหน้าทีแหละมของมันบัง Runway จนมิดเลย
11:54ก็เลยมีการเพิ่มกtam disciplinedกายที่ทำให้ปลายจมุกของมันสามารถงุมลง
11:58เพื่อให้นักบินนะคะ
11:59สามารถมองเห็น Runway ขณะที่นำเครื่องร่อนลงจอดได้
12:03ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิทยาศาสตร์
12:06ที่ช่วยให้Concord สามารถที่จะทำความเร็วได้เหนือเสียง
12:10แต่ก็ยังสามารถที่จะนำมาใช้งานในสนามบินเชิงพานิตได้
12:15คือถ้าเป็นเครื่องบินทหารหรือว่าเครื่องบินทดสอบเนี่ย
12:18มันจะออกแบบยังไงก็ได้ใช่ไหมคะ
12:20หน้าตาแปลแค่ไหน รันเวยยาวแค่ไหนก็ได้
12:23จะเล่นทายยากแพงแค่ไหนก็ได้
12:25แต่พอ Concord เนี่ยเป็นเครื่องบินโดยสาร
12:27ทำแพงไปสายการบินก็ไม่ซื้ออีก
12:30ค่าตัวก็พลงอีก
12:31ดังนั้นการออกแบบคองคิอร์ pase
12:33จึงเป็นการหาจุดร่วมระหวังเทคโนโลยี
12:36และความต้องการของตลาด
12:38แต่ว่าแม้จะเป็นสุดยอดแภ่งวิธุรภาพรรม
12:40แต่คองคิอร์ wants morelike
12:43เพราะแดนมาเปิดตัวในช่วงราคาน้ำมัน
12:45พุ่งสูงขึ้นจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
12:48ทําให้สายการบินต่างๆ ที่ตอนแรก
12:51ต่างก็ให้ความสนใจสั่งซื้อ Concord
12:54ต่างซู่ไม่ไหวกับการกินน้ำมันของมันนะคะ
12:56จนถึงจุดที่ยากที่เอามาทําตลาดให้มีกำไรได้ค่ะ
13:00จึงเกิดกระแสการหอนคําสั่งซื้อกันอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 1973
13:05ก่อนที่ Concord จะเริ่มต้นการให้บริการเสียอีกค่ะ
13:09ส่วนอังกิจกับฟรังเศษ ผู้ผลิตก็เลือกลักเลยค่ะ
13:11ทํายังไงดี จะยกเลือกก็กลัวจะเสียสักษี
13:14ทํามาแล้วก็ใช้ไปค่ะ
13:16จนสุดท้ายก็เหลือผู้ให้บริการ Concord
13:18เพียงแค่สองสายการบินเท่านั้น
13:19ก็คือ British Airways และ Air France
13:22Concord นะคะถูกผลิตมาเพียงแค่ 20 ลำ
13:25รวมกับรุ่นทดสอบแล้วนะคะ
13:27จากที่มียอดคําสั่งซื้อเข้ามามากกว่า 50 ลำ
13:30แต่สุดท้ายใช้งานจริงเพียงแค่ 14 ลำเท่านั้นเองค่ะ
13:34นี่เองนะคะจึงเป็นเหตุผลว่าทําใหม่การนั่งเครื่องบินในยุคนั้น
13:38ที่ถือว่าเป็นของที่รูราอยู่แล้ว
13:40จะไปนั่งเครื่องบินกันทั้งทีก็ต้องแต่งตัวสวยๆ ขึ้นไป
13:43ไปจิบแชมเป็นกินคาเวีย
13:45พอเป็นคองขอดที่เอาราคาตัวเครื่องบินนะตอนนั้น
13:49คูนไปอีก 2 เข้า 3 เท่า
13:51ตลาดของคองขอดในตอนนั้นนะคะ
13:53ก็เลยถูกมองว่าเป็นประสบการณ์ที่รูหลา
13:55มากกว่าการบินเครื่องบินปกติในยุคนั้นอีกค่ะ
13:59คองขอดในตอนแรกนั้นนะคะ
14:00ถูกนำมาให้บริการไปยังหลากหลายพื้นที่ทั่วโลกนะคะ
14:04แต่สุดท้ายเส้นทางที่ให้บริการก็หดลงมาเรื่อยๆ
14:07จะเหลือแค่เส้นทางระหว่าง London, New York
14:10และ Balis, New York ในที่สุดค่ะ
14:13ราคาค่าตัวไปกับระหว่าง London กับ New York
14:16เทียบกับค่าเงินปัจจุบัน
14:17เข้าขายอยู่ที่ประมาณ 12,000 ดอนลาร์สหรัฐ
14:20หรือราว 400 บาท
14:23แพงมากๆเลย
14:24ดังนั้นด้านบนเรียกได้ว่าเสริบกันรู้สุดๆ
14:27อาหารจัดเต็มแต่นั่งได้แค่ 3 ชั่วโมงก็ต้องลงแล้ว
14:31ตอนลงนี้แอบล้องห้ายอยู่นะ
14:33นอกจากปัญหาราคาน้ำมันที่ 1,000 ผวล
14:36ทำให้สายการบินไม่กล้าที่จะซื้อ Concord มาให้บริการ
14:39ปัญหารอื่นๆที่ Concord เจอก็เช่นกัน
14:42เช่นปัญหารด้านเสียงที่ดังมากๆ
14:48ทำให้ Concord นะคะ
14:49ไม่ได้รับอนุญาติให้บินเหนือพื้นดินที่ความเร็วเหนือเสียง
14:53เคยมีกรณีสายการบิน Brand Nift International
14:56เช่าเครื่องบินคองขอบไปรองให้บริการในสหรัฐ
14:59แต่สุดท้ายก็ทำความเร็วได้แค่ Max 0.9 เท่านั้น
15:03อารมณ์ประมาณได้นั่งซุปประคา
15:05แต่ขับที่ความเร็ว 80 นั่นละค่ะ
15:07แต่ก็ถือว่า British Airways และ Air France นั้นเก่งมาก ๆ เลย
15:11ที่ยังคงทำการตลาดเกี่ยวกับ Concord มาได้มากกว่า 34 ปี
15:15ด้วยการเน้นความหรูหนาบ้าง ปล่อยเช่าเมาลำบ้าง
15:18หรือทดลองให้สายการบินอื่นนำไปให้บริการ
15:22แต่สุดท้าย เหตรการที่ถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดของ Concord
15:25ก็ได้เกิดขึ้นในปี 2000 ค่ะ
15:28ที่สนามบิน Paris Saint-de-gaux เที่ยวบิน 4590 ของ Air France
15:33ก็ได้กลายเป็นโสงอันตรกรรม เมื่อ Concord ดันยางระเบิดหลังจากชนเข้ากับเศษโลหะบน Runway
15:39จนชิ้นส่วนของยางดันกระเด็นเข้าไปในเครื่องยนต์
15:42และเกิดการระเบิดขึ้นในจังหวะที่ Concord กำลัง Take-off ขึ้นไปบนอากาศพอดี
15:48จนสุดท้าย เครื่องบินก็ตกลงใส่ลงแรมในบริเวณนั้น
15:52จนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คนในเหตุการณ์นั้น
15:56จากเหตุการณ์นั้น Concord ก็ถูกสั่งให้หยุดบินเพื่อตรวจสอบด้านความปลอดภัย
16:01แต่มีนำซังในปี 2001 ก็เกิดอุบัติการที่ร้ายแรงที่สุดในภุษกรรมการบิน
16:07ในเหตุการณ์ก่อการร้าย 911 ที่ทำให้อุศรรกรรมการบินเปลี่ยนไปตลอดการ
16:13และด้วยพาระค่าใช้ใจที่เพิ่มเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้สายการบิน British Airways และ Airfront ตัดสินใจยกเลือการให้บริการฟูงบินของขอทั้งหมดในปี 2003
16:25นับเป็นอันสิ้นสุดตำนันเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงที่อยู่คู่ท้องฟ้ามานานกว่า 3 ศศวัติในที่สุด
16:32ปัจจุบันเที่ยวบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงก็ได้กลายเป็นอดีตไปแล้วนะคะ แต่ก็มีความหวังขึ้นมาอีกครั้งนะคะ เมื่อเทรนการวิจัยเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงได้กลับมาอีกครั้ง
16:43แต่ภายใต้โจทที่ท้าทายกว่าเดิมก็คือ จะทำอย่างไรให้เกิดเสียงรบกวนน้อยที่สุด
16:50เพื่อปลดล็อกให้เครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง
16:53สามารถให้บริการที่พาคพื้นทวีบได้
16:56โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา
16:58ที่พื้นที่ส่วนใหญ่นั้นเป็นแผ่นดิน
17:01และเที่ยวบินระหว่างเมืองใหญ่
17:02อย่าง New York และ Los Angeles
17:04อาจจะใช้เวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ
17:07บริษาล Boom Super Sonic นะคะ
17:09กำลังพัฒนาเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงชื่อ Overger
17:13สามารถบันทุกผู้ริษาลได้ 64-80 คน
17:17คาดว่าจะเริ่มให้บริการในปี 2029 นี้
17:21หรือ NASA เองก็กำลังวิจัยเครื่องบิน X-59
17:25เพื่อทดสอบเทคโนโลยีที่จะลดเสียงรบกวนจาก Sonic Boom
17:28ขณะทำการบิน
17:30และกำลังจะทดสอบเที่ยวบินแรกในปี 2025 นี้แล้วค่ะ
17:35เห็นได้ว่าการที่จะมีเครื่องเร็วความเร็วเหนือเสียงยังเป็นไปได้นะคะ
17:39น่ะรู้สึกว่าถามีโอกาสได้ขึ้นสักครั้งคงจะดีมากๆ เลย
17:42หน้าทดลองจริงๆ เลย
17:44Concord ถือว่าเป็นความสำเร็ตที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของการบินเลยค่ะ
17:48แม้ว่ quedar verschiedeneshowAMCord จะไม่ได้ให้บริการแล้วในปัจจิบัน
17:51แต่ความรู้ที่ได้นะคะ
17:53ยังคงส่งผลต่อการภัฒนาเครื่องบินไอนาคตต่อค่ะ
17:57ให้ระดับความวิกของ EP นี้อยู่ที่สัก
17:595-6 บิกเกอร์แล้วกันค่ะ
18:01เพราะมีวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อมกับการบินและเทคโนโลยิตต่างๆ
18:04เข้ามาผสมอยู่พอสมควนเลย
18:06อย่าลืมติดตาม The Width ด้อมด้อมของคนชอบวิทย์
18:09ว่าคลิปต่อไปเชื่อจะหยิบเรื่องอะไรมาเล่า
18:12ฝากกดไลค์ กดแชร์วิทีกันด้วยนะคะ

Recommended