ตรวจสอบฤๅษีใช้ไม้แหลมรักษาโรคไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย

  • 4 ปีที่แล้ว
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบุคคลแต่งกายคล้ายฤๅษี ใช้ไม้แหลมรักษาอาการเจ็บป่วยให้ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ พบไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือหลอกลวงประชาชน

นี่เป็นคลิปที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังมีบุคคลสวมใส่จีวรพระ โกนผม โกนคิ้ว ลักษณะคล้ายพระ กำลังนั่งพนมมือ และมีอาการลักษณะคล้ายผีเข้า โดยมีชายสวมใส่ชุดคล้ายจีวรพระ โกนผม สวดมนต์ทำพิธี พร้อมกับใช้ไม้จิ้มไปยังคนที่คล้ายถูกผีเข้า

เรื่องนี้ร้อนถึง พ.ต.อ.กิตติพงษ์ ยี่วาศรี ผกก.สภ.ห้วยผึ้ง พร้อมด้วยปลัดอาวุโส อ.ห้วยผึ้ง และเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.กาฬสินธุ์ ต้องเข้าตรวจสอบบริเวณที่พักของนายสังข์ทอง งอกคำ อายุ 64 ปี ที่บ้านสันป่าแดง ต.ไค้นุ่น อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งจัดตั้งเป็นอาศรม หรือสำนักกองทัพพระนารายณ์ทรงศีล (ที่พักพญายม) โดยนายสังข์ทอง อยู่ในชุดแต่งกายคล้ายนักบวช หรือฤๅษี

นายจรัญ จุนัน ปลัดอำเภอห้วยผึ้ง ระบุจากการตรวจสอบพบว่า บุคคลที่ปรากฏในคลิป เป็นชาวบ้านสันป่าแดง ซึ่งสร้างที่พักอยู่นอกหมู่บ้าน ลักษณะเหมือนบ้านสวน ที่ปลูกสร้างประกอบด้วยอาศรม และเรือนรับรองหลายหลัง นอกจากนี้ยังพบนายสังข์ทอง งอกคำ กำลังบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยตามร่างกายให้กับชาวบ้าน ตามกรรมวิธีของตนเอง โดยอ้างว่าเป็นการบำบัดรักษาตามกรรมวิธีของแพทย์แผนไทย หรือหมอโบราณ โดยไม่มีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชน ในส่วนของการแต่งกายคล้ายพระภิกษุนั้น นายสังข์ทอง ระบุว่า เป็นความชอบส่วนบุคคล เนื่องจากเคยบวชมาหลายพรรษา จึงชอบแต่งกายแบบนี้ เพราะความเคยชิน และคล่องตัวดี แต่ไม่เคยเอาผ้าเหลืองไปแอบอ้างในทางทุจริต ทั้งนี้ จากการตรวจสอบไม่มีส่วนใดเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือหลอกลวงประชาชน

ด้านนายสังข์ทอง ยืนยันว่า ตนเป็นบุคคลคนเดียวกับที่ปรากฏในคลิป และเคยบวชมานานถึง 11 พรรษา ในช่วงบวชชอบปฏิบัติธรรมกรรมฐาน จนเกิดนิมิต มีเทพมาบอกวิธีรักษาอาการเจ็บป่วยให้กับชาวบ้านที่มีอาการผิดปกติทางร่างกาย เช่น ปวดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ต่อมาจึงได้ลาสิกขา และเดินทางไปทำงานกับคณะสงฆ์ในงานบุญประเพณี และงานพิธีต่างๆ หลายจังหวัด

สำหรับคลิปที่มีการโพสต์ในโลกโซเชียลนั้น ไม่รู้ว่าใครถ่ายไว้และปล่อยคลิปออกไป โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นวันก่อนทำบุญปริวาสกรรม 1 วัน โดยพระรูปที่ตนให้การรักษาที่ปรากฏนั้นไม่สบาย ตนจึงให้การรักษาตามกรรมวิธีที่ตนถนัด คือ ใช้ไม้ปลายแหลมคู่จิ้มที่ศีรษะและจุดที่รู้สึกเจ็บปวดเท่านั้น ไม่ได้ไล่ผี หรือใช้มนต์คาถาแต่อย่างใด ส่วนที่ตนรักษาให้กับชาวบ้าน ก็จี้ตามจุดประสาท และสามารถบรรเทาอาการได้

นายสังข์ทอง ย้ำทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และเป็นความเชื่อส่วนบุคคล พร้อมยืนยันไม่มีค่ารักษา ไม่ได้เรียกรับ มากน้อยก็สุดแท้แต่ชาวบ้านจะหยิบยื่นให้

แนะนำ