ศาลรับฟ้องคดี “ลุงจรูญ” ฟ้องเท็จ “ครูปรีชา”

ยังไม่จบ คดีหวยอลเวง 30 ล้าน วันนี้ “ครูปรีชา-ทนายวรยุทธ” ตกเป็นจำเลยอีกคดี ในคดีร่วมกันฟ้องเท็จ กล่าวหา “ลุงจรูญ” ยักยอกหรือรับของโจรหวย 30 ล้าน โดยศาลนัดพร้อม 22 มี.ค.นี้

วันนี้ (1 ก.พ.) ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดฟังคำสั่งในคดีที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา และนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส หรือ ทนายวรยุทธ ทนายความของครูปรีชา ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟ้องเท็จและกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา” จากกรณีกล่าวหาว่า ร.ต.ท.จรูญ ยักยอกหรือรับของโจรหวย 30 ล้าน

เมื่อถึงเวลานัดหมาย 09.00 น. ร.ต.ท.จรูญ ได้เดินทางมาพร้อมกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม โดยไม่มีวี่แววของครูปรีชา และทนายวรยุทธ เดินทางมาศาลแต่อย่างใด แต่ได้มอบฉันทะให้ทีมทนายความมารับฟังแทน

ด้าน ทนายษิทรา กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นคดีอาญาคดีแรกที่ลุงจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องครูปรีชา และทนายวรยุทธ เบื้องต้นศาลได้พิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงคำให้การในชั้นศาลที่ผ่านมาแล้ว แม้ในคดีหลักที่ครูปรีชาเป็นโจทก์ยื่นฟ้องลุงจรูญ ข้อหายักยอกทรัพย์และรับของโจร คดียังอยู่ในระหว่างการยื่นฎีกาของครูปรีชา แต่ความผิดในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จและกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญานั้น ถือว่าสำเร็จแล้ว เพราะจากข้อเท็จจริงพบข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ครูปรีชาไม่ได้เดินทางไปซื้อลอตเตอรี่ ที่ตลาดเรดซิตี้ ตามคำให้การ ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ครูปรีชาอ้างว่าไปซื้อสลากฯ ในวันที่ 31 ตุลาคม และได้นำสืบคำให้การในชั้นศาลอย่างชัดเจน จึงถือว่ามีความผิดเกิดขึ้น ทั้งนี้ ศาลนัดพร้อมในคดีดังกล่าว วันที่ 22 มีนาคม 2564 เวลา 14.00 น. เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐาน และกำหนดพยานที่จะขึ้นให้การในคดี โดยเชื่อว่า คดีนี้จะสามารถทราบผลการพิจารณาคดีได้ภายในปีนี้อย่างแน่นอน อีกทั้งลุงจรูญยังตั้งใจที่จะได้ฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดกับพยานที่ขึ้นให้การไม่ตรงกับความเป็นจริงด้วย

ทั้งนี้ ครูปรีชา และ หมวดจรูญ มีคดีฟ้องกันไปมาหลายคดี ซึ่งก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 หมายเลข 533726 ซึ่งทาง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เป็นผู้นำสลากฯ 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงิน 30 ล้านบาท ไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลากฯ โดยนำเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขา จ.กาญจนบุรี แต่เมื่อหักภาษีแล้วเหลือเงินเข้าบัญชี 29,850,000 ล้านบาท โดยหมวดจรูญได้เบิกเงินออกมาจากธนาคาร เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย 5,500,000 บาท ยังคงเหลือเงินอยู่ในบัญชีธนาคารอีก 24,350,000 บาท ต่อมาหมวดจรูญ ก็มาถูกนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี ยื่นฟ้องแพ่ง ซึ่งศาลประทับรับฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ พ.1230/60 จากนั้นส่งคำร้องต่อศาล เพื่อขอให้มีคำสั่งอายัดเงินในบัญชีของหมวดจรูญที่เหลืออยู่เอาไว้ทั้งหมด

นอกจากคดีแพ่ง นายปรีชา ยังยื่นฟ้องคดีอาญาต่อหมวดจรูญ อีก 1 คดี ศาลได้ประทับรับฟ้องในคดีอาญาหมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร แต่ในที่สุดวันที่ 4 มิถุนายน 2562 ศาลพิพากษายกฟ้อง หมวดจรูญ ในคดีอาญา โดยพิพากษาว่า ไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย พิพากษายกฟ้อง ส่วนเงินที่อยู่ในบัญชี หมวดจรูญได้ดำเนินการปิดบัญชีไปแล้ว