สยอง ผ่าท้องควักทารก สาวมะกันโหด แย่งลูก
- 8 years ago
นิวยอร์ก -- แอชลี่ เวด วัย 22 ปีได้ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและมีอาวุในครอบครอง หลังจากที่เธอแทงหญิงตั้งครรภ์ เพื่อล้วงเอาตัวทารกของเหยื่อออกมาจากครรภ์ของเธอ แอชลี่กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจประเมินผลทางจิตเวช
เหยื่อความวิปริตครั้งนี้ คือนางสาวแองเจิลลีค ซัตตัน วัย 22 ปี ที่กำลังตั้งท้องได้แปดเดือนครึ่ง เมื่อเธอถูกทำร้ายโดยแอชลี่ ผู้หญิงที่เธอรู้จักจากโรงเรียน
นิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า แอชลี่ได้บอกกับคนอื่นไปทั่วว่าเธอต่างหากที่เป็นผู้ที่ตั้งครรภ์ และเอาลูกตัวเองให้แองเจิลลีค เพื่อให้แองเจิลลีคสามารถหลอกคนอื่นได้ว่าทารกเป็นของตน
แอชลี่ ได้รัดคอเหยื่อ รวมทั้งแทงเธอหลายครั้งที่บริเวณลำคอ และลำตัว ณ อพาร์ตเมนต์ของแอชลี่ในพื้นที่เมืองบรองซ์ รัฐนิวยอร์ก ก่อนที่จะทำการผ่าท้องเพื่อล้วงเอาตัวเด็กออกมา แอชลีอ้างว่าเธอเพียงแค่พยายามที่จะช่วยชีวิตเด็กทารก
เมื่อแฟนของแอชลี่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ เขาได้ใช้เสื้อแจ็คเก็ตห่อหุ้มทารกไว้ พร้อมทั้งโทรแจ้ง 911
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบไปยังที่เกิดเหตุ และจับกุมแอชลี่ เพื่อนำตัวไปเข้าห้องขังต่อไป
เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินมาถึง พวกเขาได้ตรวจดูว่าเด็กทารกปลอดภัยดี ก่อนที่จะรีบทำการนำตัวเด็ก และแม่ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสส่งโรงพยาบาล แองเจลลีค ไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เหยื่อความวิปริตครั้งนี้ คือนางสาวแองเจิลลีค ซัตตัน วัย 22 ปี ที่กำลังตั้งท้องได้แปดเดือนครึ่ง เมื่อเธอถูกทำร้ายโดยแอชลี่ ผู้หญิงที่เธอรู้จักจากโรงเรียน
นิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า แอชลี่ได้บอกกับคนอื่นไปทั่วว่าเธอต่างหากที่เป็นผู้ที่ตั้งครรภ์ และเอาลูกตัวเองให้แองเจิลลีค เพื่อให้แองเจิลลีคสามารถหลอกคนอื่นได้ว่าทารกเป็นของตน
แอชลี่ ได้รัดคอเหยื่อ รวมทั้งแทงเธอหลายครั้งที่บริเวณลำคอ และลำตัว ณ อพาร์ตเมนต์ของแอชลี่ในพื้นที่เมืองบรองซ์ รัฐนิวยอร์ก ก่อนที่จะทำการผ่าท้องเพื่อล้วงเอาตัวเด็กออกมา แอชลีอ้างว่าเธอเพียงแค่พยายามที่จะช่วยชีวิตเด็กทารก
เมื่อแฟนของแอชลี่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ เขาได้ใช้เสื้อแจ็คเก็ตห่อหุ้มทารกไว้ พร้อมทั้งโทรแจ้ง 911
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบไปยังที่เกิดเหตุ และจับกุมแอชลี่ เพื่อนำตัวไปเข้าห้องขังต่อไป
เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินมาถึง พวกเขาได้ตรวจดูว่าเด็กทารกปลอดภัยดี ก่อนที่จะรีบทำการนำตัวเด็ก และแม่ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสส่งโรงพยาบาล แองเจลลีค ไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้และเสียชีวิตในเวลาต่อมา