จับ “คิด สไปเดอร์แมน” โจรลักพระเครื่องปล่อยสนามพระ

  • 3 ปีที่แล้ว
ตำรวจจับ “คิด สไปเดอร์แมน” ตระเวนงัดวัดดัง ขโมยพระเครื่องดังหลายพื้นที่ไปปล่อยราคาถูกในสนามพระ ยอมรับติดหนังแอ็กชัน จึงเลียนแบบในหนัง

วันนี้ (17 ธ.ค.) ตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมกับตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม แถลงข่าวจับกุมนายสมคิด แต้มงาม หรือ ติ่ง อายุ 33 ปี เจ้าของฉายา “คิด สไปเดอร์แมน” ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ผู้ต้องหาคดีสำคัญที่ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์เงินสดตามตู้บริจาคกับพระเครื่องภายในวัดดังหลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรสาคร และนครราชสีมา ได้ของกลางจำนวนมาก

โดยเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ได้เข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ที่วัดไผ่ล้อม ในเวลากลางคืน ซึ่งภายหลังจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวมาทำแผนประกอบการรับสารภาพ โดยผู้ต้องหายอมรับว่า ได้เข้ามาก่อเหตุที่วัดไผ่ล้อม โดยใช้วิธีทุบกระจกหน้าต่าง และเข้าทางหน้าต่าง เข้ามางัดตู้บริจาคภายในวัด และตู้พระ จำนวนหลายรายการ

ทั้งนี้ ชุดสืบสวนฯ จับกุมนายสมคิดได้ที่ห้องพักในอาคารไม่มีชื่อ ถ.พระราม 2 ซอย 59 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. พร้อมของกลางหลายรายการ อาทิ พระเครื่องหลวงปู่เอี่ยม วัดหนังราชวรวิหาร กทม. จำนวน 735 รายการ, พระเครื่องวัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร จำนวน 12 รายการ, พระเครื่องมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังษี จ.นครราชสีมา จำนวน 168 รายการ, พระเครื่องหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม จำนวน 7 รายการ และเงินสดที่ได้จากการงัดตู้บริจาควัดไผ่ล้อม 4,553 บาท

ส่วนพฤติกรรมสุดแสบของนายสมคิด ที่หลายคนน่าจะคุ้นตากันบ้าง คือ ตอนที่ไปขโมยพระเครื่อง วัตถุมงคล เงินบริจาค ที่วัดหนังราชวรวิหาร รวมมูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท เมื่อขโมยเสร็จ ไม่รู้ว่าหิวน้ำ หรืออยากได้บุญ คว้ากระบวยตักน้ำมนต์มาดื่ม ก่อนหลบหนีไปอย่างใจเย็น

จากการสอบสวนนายสมคิด ยอมรับว่า เสพติดหนังแอ็กชัน ประเภทแต่งกายอำพรางโรยตัวเข้าโจรกรรมอย่างหนัก จนเมื่อต้นปี 2559 เคยถูกตำรวจฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.8 และ สน.บางขุนเทียน ร่วมกันจับกุมข้อหาลักทรัพย์ หลังตระเวนปีนฝ้าเพดานร้านขายโทรศัพท์ จำนวน 11 แห่ง แล้วโรยตัวเข้าทำการโจรกรรมโทรศัพท์มือถือมาได้กว่า 200 เครื่อง จนได้ฉายาว่า “คิด สไปเดอร์แมน” ครั้งนั้นถูกศาลตัดสินจำคุก 8 เดือน และโดนคดีข้อหาลักทรัพย์ในท้องที่อื่นๆ ติดเพิ่มอีก 3 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมา เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นใช้เวลา 2 เดือนที่ได้รับอิสระออกจากเรือนจำ ตระเวนไปสำรวจลาดเลาตามวัดดังต่างๆ โดยใช้รถโดยสารสาธารณะเป็นยานพาหนะ แล้วทำทีตีสนิทกับพระสงฆ์ที่ดูแลตู้วัตถุมงคล เพื่อจดรายละเอียดเกี่ยวกับพระเครื่อง

โดยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ก่อเหตุสำเร็จทั้งสิ้น 4 แห่ง ได้แก่ วัดหนังราชวรวิหาร กทม., วัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร, มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังษี จ.นครราชสีมา และวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ได้พระเครื่องจำนวนมากออกมาเร่ขายเซียนตามสนามพระในราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยอาศัยปล่อยในราคาต่ำๆ เพื่อออกของง่ายๆ นำรายได้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่วนเงินที่ได้จากการงัดตู้บริจาคก็ใช้กินเที่ยวเตร่ไปจนหมด เหลือแค่เศษเหรียญบาท จำนวน 4,553 บาท ที่ได้มาจากตู้บริจาควัดไผ่ล้อมเท่านั้น

แนะนำ