ผู้ว่าฯ พิจิตร สั่งปิด 3 หมู่บ้านใน อ.บางมูลนาก สกัดโควิด-19

ผู้ว่าฯ พิจิตร สั่งปิด 3 หมู่บ้านในพื้นที่ อ.บางมูลนาก ซึ่งอยู่ในเขตรอยต่อกับ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ หลังพบพ่อแม่ลูกใน อ.ชุมแสง ป่วยโควิด-19

นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจิตร สั่งการให้ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ปิด 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 7, หมู่ที่ 8 ต.เนินมะกอก และหมู่ที่ 4 ต.วังสำโรง ซึ่งทั้ง 3 หมู่บ้านดังกล่าวอยู่ในเขตรอยต่อกับ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เพื่อไม่ให้ประชาชนชาว อ.ชุมแสง เดินทางเข้ามาประกอบอาชีพ หรือค้าขายกับประชาชนชาว อ.บางมูลนาก เป็นการชั่วคราว เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังพบพ่อแม่ลูก รวม 3 คน ซึ่งมีภูมิลำเนาเป็นชาว อ.ชุมแสง ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ หากประชาชนชาว อ.ชุมแสง มีความจำเป็นต้องเข้ามาในพื้นที่ อ.บางมูลนาก จะต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวเองเป็นระยะเวลา 14 วัน เพราะ จ.พิจิตร เป็นพื้นที่สีขาว 1 ใน 9 จังหวัดทั่วประเทศที่ยังไม่พบประชาชนป่วยติดเชื้อโควิด-19

ส่วนที่ จ.เชียงราย ขณะนี้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ 9 ราย หายจากอาการป่วยและกลับบ้านได้แล้ว 8 ราย เหลือรักษาตัวอยู่เพียง 1 ราย ซึ่งอาการดีขึ้นตามลำดับ คาดว่าจะสามารถกลับบ้านได้ภายในสัปดาห์นี้ และตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม จนถึงวันที่ 13 เมษายน 2563 รวมกว่า 2 สัปดาห์ ยังไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มแต่อย่างใด

ขณะที่การล็อกดาวน์เมือง ปิดถนนสายรอง 9 จุด และเปิด 4 ช่องทางหลักที่เชื่อมต่อระหว่าง จ.พะเยา และ จ.เชียงใหม่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เข้าเวรยามตรวจเข้มบุคคลเข้า-ออก ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างเข้มข้น สามารถสกัดกั้นการแพร่ระบาดอย่างได้ผล และล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มีคำสั่งเพิ่มเติม ห้ามจำหน่ายสุราและมั่วสุมเกิน 5 คน ตั้งแต่วันนี้ (13 เม.ย.) จนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ รวมทั้งห้ามจัดงานประเพณีสงกรานต์ในทุกระดับ และห้ามการรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากใครฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย