ในหลวง-ราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ ทรงเจิมเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช

  • 5 ปีที่แล้ว
เวลา 18.00 น. วันที่ 16 ต.ค.2562 เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทรงเจิมเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือฟริเกตลำใหม่ ซึ่งกองทัพเรือได้ว่าจ้างสร้างเรือฟริเกตสมรรถนะสูงเข้ามาประจำการ เป็นไปตามแนวทางการพัฒนากำลังรบตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินขึ้นเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงปิ่นเกล้า ยิงสลุตหลวงถวายความเคารพ จำนวน 21 นัด จากนั้น ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม แล้วทรงคล้องพวงมาลัยใต้แผ่นชื่อเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช และทอดพระเนตรห้องศูนย์ยุทธการ เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช หมายเลขเรือ 471 เป็นเรือรบประเภทเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ที่กองทัพเรือดำเนินการจัดหาจากสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อใช้ในภารกิจการป้องกันประเทศ การรักษาผลประโยชน์และเส้นทางคมนาคมของชาติทางทะเล ทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กองทัพเรือมีความทันสมัย ทัดเทียมกับนานาประเทศ โดยจัดหามาทดแทนเรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และเรือหลวงพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่ปลดระวางประจำการไปแล้ว เรือลำนี้เดินทางมาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2562 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานชื่อว่า "เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช" เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งทรงเปรียบเสมือนพระบิดาแห่งทหารเรืออีกพระองค์หนึ่ง ที่ได้พระราชทานแนวทางการสร้างเรือ และการจัดหาเรือที่เหมาะสมให้กองทัพเรือใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตลอดมา

เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการรบทางเรือทั้ง 3 มิติ ได้แก่ การรบผิวน้ำ การปราบเรือดำน้ำ และการป้องกันภัยทางอากาศ รวมทั้งยังมีขีดความสามารถในการโจมตีที่หมายชายฝั่งด้วยอาวุธปล่อยนำวิถี นอกจากนี้ยังมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางทหารที่ไม่ใช่สงครามได้หลายภารกิจ เช่น การบังคับใช้กฎหมายในทะเล การตรวจค้นเรือต้องสงสัย การต่อต้านการก่อการร้ายในทะเล การปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล ด้วยการใช้ระบบอำนวยการรบและระบบเดินเรือแบบรวมการวิเคราะห์ทิศทางการเคลื่อนที่ของยานพาหนะ หรือผู้ประสบภัยในทะเล การเคลื่อนที่ของคราบน้ำมัน การเคลื่อนที่ของกลุ่มก๊าซที่ลอยในอากาศ และยังถูกออกแบบให้มีขีดความสามารถในการอยู่รอดขณะปฏิบัติการในพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนของสารนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพ ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ รวมทั้งมีการปรับใช้พื้นที่ในโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ เป็นที่พักชั่วคราวของผู้ประสบภัย ตลอดจนการสนับสนุนการส่งกลับทางสายแพทย์ จากพื้นที่ประสบภัยบนฝั่งมายังเรือ หรือจากเรือในทะเลไปยังโรงพยาบาลบนฝั่ง

#ทรงพระเจริญ #AssavarakChannel