ผู้เชี่ยวชาญด้านถ้ำเชื่อโอกาสรอดสูง

นายชัยพร ศิริไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านถ้ำ นักธรณีวิทยา เคยปฏิบัติงานที่กรมทรัพยากรธรณี ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่า เคยขึ้นสำรวจถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน พบว่าทางกายภาพของถ้ำจะมีโถงพื้นต่ำกับโถงพื้นสูงอยู่สลับกัน โดยจุดโถงพื้นทรายอยู่ทางด้ายซ้ายของปากถ้ำ ที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า ทั้ง 13 คน น่าจะอยู่จุดนั้น มีความสูงต่ำจากปากถ้ำ 6-8 เมตร ถ้าหากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอีก 1 เมตรจากฝนตกเมื่อคืน ทั้ง 13 คน ยังคงอยู่บนโถงเนินทรายได้ แต่ขณะเดียวกัน หากทั้ง 13 คนไม่ได้อยู่โถงเนินทรายนี้ ถัดโถงน้ำที่ท่วมซึ่งเป็นจุดรอยต่อ ยาวประมาณ 800 เมตร เป็นโถงสูงเช่นกัน ซึ่งในช่วงน้ำท่วม ทั้ง 13 ชีวิต อาจปีนป่ายหนีน้ำไปอยู่ที่สูงได้ฃ

ส่วนกรณีที่ในถ้ำมีซากฟอสซิลที่ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ ส่งผลให้อากาศมีออกซิเจนน้อย แต่กระแสน้ำที่ไหลผ่านจะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซค์ได้ระดับหนึ่ง

สำหรับโอกาสรอดชีวิตของ 13 คน ผู้เชี่ยวชาญมีความมั่นใจว่า หากทั้ง 13 คนอยู่บนโถงสูง เพื่อหนีน้ำและหาอากาศหายใจ มีโอกาสรอดชีวิตสูง แต่ถ้าหาก ไปหลบในโถงพื้นต่ำ ซึ่งในถ้ำมีโถงพื้นต่ำอีกหลายจุดที่น้ำไม่ท่วม จะมีโอกาสเสี่ยงทั้ง 13คนสลบ จากการสูดคาร์บอนไดออกไซค์เข้าไปจำนวนมาก เพราะในถ้ำคาร์บอนไดออกไซค์ จะลอยจากพื้นสูงระดับเข่าจนถึ ง2 เมตร ซึ่งแต่ละโถง คาร์บอนไดออกไซค์ลอยสูงไม่เท่ากัน แต่ทั้งนี้เชื่อว่าตามสัญชาติญาณคนเพื่อเอาตัวรอด จะปีนหาที่สูงเพื่อหนีน้ำและหาอากาศหายใจ ส่วนตัวยังเชื่อว่า 13 ชีวิต ยังปลอดภัยแต่อาจจะอ่อนเพลียเพราะขาดอาหาร


ติดตามข่าวที่น่าสนใจได้ที่ www.workpointnews.com